วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

 หน้าแรก    ที่ดิน    บ้าน     อาคารพาณิช      รีสอร์ท/โรงแรม      ปรึกษาโครงการ    บทความ   ฮวงจุ้ย
WE CARE   WE SHARE  WE GROW     ใส่ใจ     แบ่งปัน    เติบโตไปด้วยกัน
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

รับปรึกษา ฮวงจุ้ย
ติดต่อ 093-1497954
dcoterkru@gmail.c

 เทศนา พระอาจารย์โต พรหมรังสี 

                 บุญ  ก่อนที่เจ้าจะเที่ยวไปอ้อนวอนขอ พึ่งบารมีหลวงพ่อองค์ใดองค์หนึ่ง เจ้าจะต้องมีทุน (บุญ) ของตัวเอง เป็นทุนเดิมติดตัวไปบ้างก่อน ต่อเมื่อบารมีของตัวเจ้าเองยังไม่พอ จึงขอร้อง ยืมบารมีของผู้อื่นมาช่วยเหลือ ถ้ามิฉะนั้นแล้วเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะเจ้าจะต้องเป็นหนี้บุญบารมีเจ้าร้องขอ หรือยืมคนเขามาจนล้นพ้นตัว
            ครั้นเวลาใดที่เจ้ามีโอกาสทำบุญทำกุศลบ้าง เรียกว่า พอจะมีบุญบารมีเป็นของตัวเอง   บ้าง  เจ้าก็จะต้องไปผ่อนใช้หนี้ที่เจ้าเคยขอร้องยืมเขามาจนหมดสิ้นแทบไม่เหลือสำหรับตัวเอง แล้วเจ้าจะมีบุญกุศลใดติดตัวไว้จุนเจือตัวเองในภพหน้าที่ยังจะต้องเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นวัฏฏทุกข์ที่เราพุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะต้องรับรู้ รับทราบ ถ้าเรามั่นใจในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉะนั้น เจ้าจงหมั่นสะสมบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ไว้อย่างสม่ำเสมอ เทพยดา ฟ้าดินจะเอ็นดูช่วยเหลือเจ้าเอง 
         จงจำไว้เถิดว่า เมื่อได้ทำบุญทำกุศลแล้ว อย่าคิดว่าจะได้รับผลนั้นทันที จะทำให้จิตใจหดหู่ท้อถอย แต่จงมั่นใจเถิดว่า ผลบุญนั้นไม่สูญหายไปไหน เพราะการให้ผลของ "กรรม" นั้น จะทำให้ผลตามกำหนดถ้ายังไม่ถึงเวลาที่ส่งผลแล้ว แม้แต่เทพเจ้าหรือผู้มีฤทธิ์องค์ใด ที่เจ้าไปขอร้องให้ช่วยเหลือ ก็ไม่สามารถให้ผลนั้นเกิดได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะให้ผล ทั่วฟ้าดินก็ต้านทานผลของกรรมนั้นไว้ไม่อยู่
           ฉะนั้น จงเตือนใจไว้เสมอว่า ถ้าประสงค์ความสุข ความเจริญ โภคสมบัติ จงหมั่นสร้างบุญ สร้างกุศลไว้อย่างสม่ำเสมอ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามกำลังศรัทธา เพราะเราไม่อาจจะรู้ได้ว่า อดีตชาติเราได้สร้างบุญหรือสร้างบาปไว้มากน้อยเพียงใด และผลของกรรมใดจะส่งผลก่อนหรือหลัง เพื่อความไม่ประมาทจึงควรจะสร้างบุญกุศลเป็นการเพิ่มเติมไว้เสมอ ถ้าอดีตทำไว้มากแล้ว ก็จะยิ่งมีมากขึ้น ย่อมให้ผลก่อนที่มีกำลังน้อยกว่า อันเป็นกฎธรรมชาติของกรรม ฉะนั้น ด้วยความไม่ประมาท จงระลึกไว้ว่า ถ้าตนเองไม่สะสมไว้แล้ว ใครที่ไหนจะช่วยเจ้าได้ เจ้าจะมีอะไรไว้เป็นทุนเดินทางเวียนว่ายในวัฏฏทุกข์ที่ยังต้องผจญต่อไป ไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่ จงระลึกไว้เสมอว่า เจ้าสะสมเตรียมตัวไว้เดินทางแล้วหรือยัง จะรอให้คนอื่นทำไปให้นั้น จะมั่นใจดีเท่ากับเราเตรียมหาไปเองหรือ

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
ความเชื่อ
สารพัดความเชื่อที่ไม่ถูกต้องที่ปะปนอยู่ในวิชาฮวงจุ้ย
               วิชาฮวงจุ้ยนั้นมีหลักการที่เป็นวิทยาศาสตร์และมีเหตุผลในเชิงตรรกวิทยารองรับ ไม่ใช่เรื่องของความเชื่อในทางไสยศาสตร์อย่างที่คนทั่วไปเข้าใจกัน ดังเช่น  
1. เสือคาบดาบแก้ทางสามแพร่งได้หรือไม่
                  อันที่จริงแล้ว...เสือคาบดาบไม่ใช่อุปกรณ์ในวิชาฮวงจุ้ย แต่เพิ่งริเริ่มนำมาใช้กันไม่เกิน40 – 50 ปีนี้เอง โดยซินแสที่ไม่ได้เข้าใจหลักวิชาฮวงจุ้ยอย่างถ่องแท้ เช่น แก้ไขปัญหาเหตุร้ายของบ้านที่อยู่ทางสามแพร่งไม่ตก คิดว่าเป็นทางผ่านของวิญญาณ จึงนำความเชื่อทางไสยศาสตร์ว่าเสื้อเป็นสัตว์ดุร้าย หากนำหน้าเสือมาติด จะช่วยไล่วิญญาณร้ายได้ ก็ไม่ก็ใช้ภาพโป็ยข่วยมาติดแทน แท้จริงแล้วทางสามแพร่งไม่ได้ร้ายเสมอไป เป็นเพียงถนนที่พุ่งตรงเข้ามาทำให้ลมพัดเข้าบ้านแรงกว่าปกติ ซึ่งถ้าเข้ามาทำมุมกับบ้านในองศาที่ไม่ดี ก็จะทำให้เกิดเรื่องวิบัติขึ้นกับคนในบ้านในปีนั้น โดยการแก้ไขที่ถูกต้อง จะต้องคำนวณพลังชี่ว่าเป็นธาตุใด ก็ให้นำวัตถุธาตุนั้นมาแก้ไข เช่น หากเป็นพลังชนิดที่ 5 (ธาตุดินอมไฟ) อาจใช้ กระดิ่งโลหะ ธาตุทองแขวนในทิศนี้สลายพลัง หรือ ถ้าเป็นพลังธาตุน้ำเข้ามา ก็อาจต้องใช้สีเขียวทาแก้ไข หากทิศนั้นชอบกระแสเคลื่อนไหวของพลังงาน การพบทางสามแพร่งพุ่งใส่อาคาร กลับจะนำความรุ่งเรืองมาให้อีกหลายเท่าตัว


 2. การตั้งเจ้าที่ (ตี่จู๋เอี๊ย) จำเป็นหรือไม่
                   เจ้าที่ไม่ได้มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของผู้อยู่อาศัย และไม่ไช่เรื่องของวิชาฮวงจุ้ยโดยตรง แต่เหตุผลที่ซินแสในอดีตแนะนำให้ลูกค้าตั้งเจ้านั้น เป็นสิ่งที่มีภูมิปัญญาอันแยบยลซ่อนอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากคนที่ค้าขายส่วนใหญ่ก็มักคิดแต่จะเอาเปรียบลูกค้า หากซินแสจะสอนเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ลูกค้าฟังตอนเช้า พอบ่ายก็ลืมหมด จึงได้แนะนำให้ตั้งตี่จู๋เอี๊ย โดยบอกว่าให้ตั้งใจค้าขายอย่าโกงลูกค้า เมื่อวันตรุษจีน เจ้าที่ก็จะขึ้นไปรายงานกับเง็กเซียนฮ่องเต้ประทานรางวัลให้ หากเอาเปรียบลูกค้าก็จะถูกลงโทษ ทุกครั้งที่ลูกค้าหันไปเห็นเจ้าที่ตั้งอยู่ ก็จะคิดถึงคำสอนขึ้นมาได้ ไม่คิดคดเอาเปรียบใคร ซึ่งถ้าตั้งใจค้าขาย บริการลูกค้าด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์สุจริต ลูกค้ามีความประทับใจ ก็แนะนำคนมาใช้บริการเพิ่มขึ้น ธุรกิจการค้าก็จะค่อยๆ มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมาได้
                ลองคิดความเป็นจริง ฝรั่งต่างชาติไม่เคยตั้งเจ้าที่ในบ้าน ทำไมจึงมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้ ในขณะที่บ้านเราตั้งเจ้าที่ทุกบ้าน ถึงช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำไม่เห็นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนมาช่วยเตือนท่านให้รอดพ้นวิกฤติได้ แต่ถ้าเจอเจ้าของบ้านเป็นคนจีนรุ่นเก่า ที่เชื่ออย่างฝังหัว ผมก็จะแนะนำให้ตั้งตี่จู๋เอี๊ยในจุดที่ต้องการพลังธาตุไฟเพราะเป็นสีแดง แถมจุดไปบ่อยๆก็สามารถกระตุ้นพลังได้



3. ตั้งฮกลกซิ่ว แล้วจะทำให้รวยจริงหรือไม่
               ในสมัยโบราณมีคนจีน คน ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูงส่ง ด้าน โดยคนที่หนึ่งร่ำรวยเหมือนทักษิณเพราะตั้งใจทำมาหากิน ด้วยความเฉลียวฉลาด ละเอียดรอบคอบ ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ทำให้เจริญรุ่งเรืองเหนือธรรมดา ส่วนคนที่สองตั้งใจรับใช้บ้านเมืองและประชาชน จนได้รับการปูนบำเหน็จแต่งตั้งเป็นมหาอำมาตใหญ่เปี่ยมด้วยอำนาจวาสนา ส่วนคนสุดท้ายรู้จักดูแลสุขภาพจิต สุขภาพกายจนมีอายุยืนกว่าคนทั่วไป แถมมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง คนจีนจึงได้คิดปั้นรูปท่านทั้ง ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นตัวแทนความสำเร็จในชีวิตทั้ง ด้าน เพื่อไว้เตือนใจตน ให้ตั้งใจบริหารชีวิตของตัวเองทั้ง ด้านให้ดี คือ ต้องตั้งใจทำงานให้เจริญรุ่งเรือง หลังจากมีแล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะช่วยเหลือสังคม และสุดท้ายก็ต้องหมั่นดูแลให้มีสุขภาพดี อารมณ์แจ่มใส ไม่ใช่มัวแต่บ้างานหรือหาเงินอย่างเดียวเท่านั้น คือเรียกว่ามีทั้ง ฮก ลก ซิ่ว นั่นเอง ไม่ใช่ว่าตั้งตุ๊กตาฮกลกซิ่วอย่างเดียวแล้วจะรวยได้ ไม่อย่างนั้นร้านที่ขายฮกลกซิ่ว ซึ่งมีเป็นร้อยๆองค์ คงได้รวยใหญ่จนล้ำหน้าบิลเกตต์ไปแล้ว!  


4. ที่ดินหน้าแคบหลังกว้างเป็นรูปถุงเงิน ฮวงจุ้ยดีจะเก็บเงินอยู่
                เรื่องนี้เป็นเรื่องกฎระเบียบของประเทศจีน ในอดีตที่เขาจัดเก็บภาษีตามหน้ากว้างของที่ดิน บ้านไหนที่ดินหน้าแคบก็จะเสียภาษีน้อย จึงมีเงินเหลือเก็บ ส่วนปัจจุบัน ที่หน้าแคบๆคนไม่ชอบ ขายไม่ได้ราคา คนขายจึงพยายามยกกฎเกณฑ์ฮวงจุ้ยเรื่องนี้มาอ้างเพื่อช่วยให้ขายได้ง่ายขึ้น


 5. ห้องน้ำอยู่กลางบ้านหรืออยู่ในห้องนอน ทำให้ฮวงจุ้ยเสีย
               ถ้าใครเคยไปเมืองจีนคงพอทราบว่าห้องน้ำในสมัยก่อนนั้นเหม็นและสกปรกขนาดไหน เต็มไปด้วยเชี้อโรคและกลิ่นอันชื้น หากอยู่กลางบ้านไม่มีแสงแดดมาช่วยฆ่าเชื้อโรคบ้างคนที่อยู่คงเสียสุขภาพ แต่ห้องน้ำในปัจจุบันมีสุขอนามัยดีกว่าในอดีตมาก ห้องน้ำจะตั้งที่ใดก็ไม่ส่งผลร้ายต่อผู้พักอาศัย ของเพียงแต่ทิศนั้นพลังไม่ขัดกับธาตุน้ำเท่านั้น

6. เลขที่บ้านและทะเบียนรถยนต์มีผลกับชีวิตหรือไม่
              ตัวเลขเป้นสิ่งที่มนุษย์สมมุติขึ้นมา ไม่ได้เกี่ยวกับพลังธรรมชาติแต่อย่างใด จึงไม่ได้ส่งผลบวกหรือลบต่อคนโดยตรง แต่ละชาติก็มีคตินิยมความชอบตัวเลขแตกต่างกันเป็นคนไทยไม่ชอบเลขเพราะฟังดูเหมือนหกหมดเสียหาย ส่วนคนจีนบอกว่าเสียงเหมือน ฮก ลก ซิ่ว เป็นมงคลมาก แล้วจะเชื่อใครดี เหมือนเรื่องชื่อต้นไม้ เวลาที่คนขายคิดจะส่งเสริมให้ต้นไม้ขายดีก็จะเปลี่ยนชื่อต้นไม้จากชื่อที่ชาวบ้านเรียก มาเป็นชื่อที่หรูหราเป็นมงคล อย่างเช่น เพชรร้อยล้าน ว่านมหาเศรษฐี ฯลฯ ไม่ทราบว่า หลังจากซื้อมาปลูกแล้วใครรวยระหว่างคนซื้อกับคนขาย  


7. ไม้บรรทัดที่แสดงระยะมงคล จริงหรือไม่
             เรื่องระยะมงคลนี้มาจากตำราหลู่ปัง ซึ่งเป็นช่างไม้ในวังหลวง แต่มีข้อน่าสงสัยคือ ในตำราเล่มนี้กลับมีคำศัพท์บางตัว ที่เป็นคำของยุคหลังจากหลู่ปังเกือบพันปี เหมือนบอกว่าในหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง มีคำว่า โลกาภิวัฒน์ อย่างไรอย่างนั้น แท้จริงแล้วน่าจะเป็นกลยุทธ์ของช่างไม้ในการยกระดับภาพพจน์จากการเป็นแค่คนงานก่อสร้างมาเทียบเท่าซินแสฮวงจุ้ยเสียมากกว่า คือถ้าช่างคนไหนมีวิชาดีเจ้าของบ้านก็เกรงใจ บริการดี และเรียกร้องค่าตัวได้มาก เป็นเทคนิคทางมาร์เก็ตติ้ง ดีๆ นี่เอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของฮวงจุ้ยแต่ประการใด เพราะฮวงจุ้ยเป็นเรื่อง วิชาการบริหารพลังธรรมชาติให้มาเสริมพลังของคน เช่น ถ้าจุดนั้นของบ้านเป็นทิศที่พลังดี ก็ควรเปิดให้กว้างที่สุดเพื่อให้พลังเข้าได้สะดวก ไม่ใช่ต้องระยะเท่านั้นจึงจะดี หรือคุณคงเคยเห็นโต๊ะ เก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักไม้บรรทัดมงคล ที่บางสำนักทำขาย จะพบว่าขนาดจะสูงกว่าปกติจนนั่งไม่สบายถ้าต้องใช้ทุกวันจะนั่งคิดงานที่ดีออกมาสร้างความสำเร็จได้อย่างไร  


8. ต้องมีธรณีประตูเพื่อดักโชคลาภหรือไม่
             ไม่จำเป็นและไม่ใช่หลักฮวงจุ้ยโดยตรง แต่เหตุผลที่บ้านส่วนมากที่เมืองจีนในอดีตต้องมีธรณีประตู เพราะเวลาสร้างบ้านไม่ได้มีการถมที่ (ซึ่งก็ต้องเห็นใจ สมัยก่อนไม่มีรถแทรกเตอร์ขุดดินมาถมและบดอัดดิน) เวลาที่ฝนตกหนักน้ำจะท่วมเข้าบ้าน จึงต้องสร้างธรณีประตูขึ้นมากันไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้าน แต่ถามว่าถูกหลักฮวงจุ้ยหรือไม่ ตอบให้ได้เลยว่า ถ้าองศาทิศทางนั้นเป็นพลังที่ดีแล้วกำลังเข้ามาทางด้านหน้าบ้าน แต่กลับไปสร้างอะไรมาปิดกั้น ก็จะทำให้พลังดีไม่สามารถเข้าได้สะดวก พลอยทำให้โชคลาภและโอกาสทางธุรกิจสูญเสียไป แต่ถ้าทิศนั้นคำนวณพบว่าเป็นพลังร้าย การมีธรณีประตูมากั้นพลัง ถือว่าเป็นอุปกรณ์แก้ฮวงจุ้ยที่มีประสิทธิภาพ (ส่วนจะคำนวณอย่างไรว่า ทิศไหนดีหรือร้าย ให้ดูในบทที่เกี่ยวกับการคำนวณพลังของสำนักที่เกี่ยวกับทิศทาง)


9. การตั้งสิงโตหินหรือสำริด จะช่วยแก้ฮวงจุ้ยได้อย่างไร
               ในสมัยโบราณ ซินแสแนะนำให้ใช้สิ่งโตหินหรือโลหะ ตั้งเพื่อแก้ไข กรณีที่บ้านอยู่ตรงทางสามแพร่ง ช่องลมหรือมุมแหลมตึก เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งกระแสลมให้พัดนำเอาพลังเข้ามามากขึ้น ซึ่งถ้าปีใดเป็นพลังร้ายก็จะส่งผลร้ายต่อผู้อยู่อาศัยอย่างรุนแรง จึงต้องหาวัตถุที่ใหญ่ๆ หนักๆ มาตั้งขวางกระแสพลังไว้ (สิงโตหินสมัยก่อนสูงใหญ่จริงๆ) แต่แนะนำให้เจ้าของบ้าน หาเป็นรูปสิงโตเพราะตั้งแล้วดูสง่าดีเหมือนของตกแต่งที่ดูเข้ากับแบบบ้านแนวจีนในสมัยนั้น แต่ซินแสรุ่นหลังไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริง ไปคิดเอาว่า สิงโตเป็นสัตว์วิเศษ สามารถแก้พลังร้ายได้ จึงเอามาใช้เป็นอุปกรณ์แก้ฮวงจุ้ย โดยไปทำย่อลงเป็นขนาดเล็กๆจุ๋มจิ๋มน่ารัก เอาไปติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์อะไร
 หมายเหตุ
              การตั้งที่ถูกหลัก จะต้องคำนวณกระแสที่พุ่งมาว่าเป็นพลังดีหรือร้าย หากสามแพร่ง หรือช่องลมนั้นเป็นพลังที่ดี ก็ไม่ควรเอาอะไรไปตั้งขวาง เพราะทิศสามแพร่งที่ดีนั้นอยู่แล้วจะเจริญรุ่งเรือง อย่างผิดหูผิดตา แบบพลิกชีวิตเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นพลังร้าย จึงควรที่จะหาอะไรมาปิดหรือขวางกระแสไว้ รวมทั้งต้องรู้ว่ากระแสที่พุ่งมานั้นเป็นธาตุอะไร ถ้าเป็นธาตุไฟ (เช่นพลังชนิดที่ หรือทิศใต้) ก็ควรที่จะตั้งสิงโตหินซึ่งเป็นธาตุดินเพื่อถ่ายเทพลังไฟ หากพลังร้ายเป็นธาตุดินก็ต้องเลือกสิงโตที่เป็นโลหะ เพื่อถ่ายเทพลังดินออกจะได้ไม่เหลือพลังร้ายมาสู่คนเหมือนอย่างความเชื่อผิดๆ ของสำนักงานใหญ่ธนาคารบางแห่ง ที่เดิมตั้งสิงโตโลหะตัวใหญ่ แล้วเปลี่ยนมาเป็นช้างโลหะแทนในภายหลัง เพราะเหตุผลว่าสิงโตดุไล่ลูกค้าหมด ส่วนช้างเป็นสัตว์ใหญ่ ใจดี รับแขก ซึ่งเป็นความเข้าใจฮวงจุ้ยที่ผิดเพี้ยนไปจากหลักวิชามาก ที่จริงแล้ว ทิศทางนั้นพลังโชคลาภ และบารมี เป็นธาตุทอง แต่พลังบารมี ชอบสภาพนิ่งๆ กลับมาเจอประตูซึ่งเคลื่อนไหว จึงควรตั้งวัตถุใหญ่ๆ หนักข้างประตูมาเสริมธาตุทอง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปอะไร ความจริงก็ไม่สำคัญ! แต่พลังโชคลาภจะหมดปี พ.ศ.2547 กลับมาเปลี่ยนเอาช้างโลหะมาตั้ง ช่วงที่พลังจะหมดยุคพอดี จึงไม่มีประโยชน์อันใดจากการเสียสตางค์หลายล้านในครั้งนี้  


10. ติดรูปภูเขาที่หลังที่ทำงานจะทำให้มีบารมีจริงหรือ
                รูปภาพก็คือกระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้น เราจะพิมพ์หมึกสีอะไรใส่เข้าไปก็เหมือนเดิม คนที่เข้าใจฮวงจุ้ยที่แท้จริงเอาจะอ่านเป็นแค่กระดาษกับเป็นสีของธาตุอะไร ไม่ได้ดูความหมายเชิงสัญลักษณ์ว่า ภูเขาหมายถึงความมั่นคง” หรือรูปปั้นมังกร คือ ความสูงศักดิ์ ตั้งแล้วจะยิ่งใหญ่มั่งคั่ง” เวลาที่ซินแสมองมังกรตัวนั้น ก็แค่พิจารณาว่าทำจากวัสดุอะไร หากหล่อจากทองเหลืองก็ดูเป็นแค่ธาตุทองชนิดหนึ่ง ไม่ต่างจากถังแสตนเลสหนึ่งใบ แต่ถ้าติดรูปภูเขาแล้วทำให้ความรู้สึกของคุณดีขึ้นก็ติดต่อไปได้ครับ นึกดูง่ายๆเหมือนกับถ้าเราติดรูปดอกไม้ แล้วจะมีผึ้งหรือผีเสื้อสักตัวเข้ามาตอมหรือไม่


ขออวรพรแด่ท่านจงมั่งมีเงินทอง สุขภาพแข็งแร็ง
มีสติปัญญาแก้ไขปัญหา เจริญก้าวหน้าในทุกทุกด้าน
 กุศลที่พึงมีในการสร้างเอกสารครั้งนี้
ขอกุศลนั้นจงแผ่ไปยังคุณบิดา คุณมารดา ญาติมิตร
คุณครูบาอาจารย์ ผู้บังคับบัญชา เพื่อนรวมงาน
รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร เปตรและผี
ด้วยความปรารถนาดีจาก
อาจารย์กิตติพัฒน์ หวานเสียง
รับปรึกษาฮวงจุ้ย ด้วยหลักการภายใต้เหตุและผล
โทร. 093-1497954

จงเผื่อแผ่ไปยังผู้อื่นด้วยเจตนาที่ไม่หวังผลตอบแทน
Lazada Thailand